วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551

อบรม Km ตอนที่4

หลังจากที่เราได้รู้แล้วว่าเราจะทำ KM ไปทำไม (จากที่ สคส บอก) หรือบางท่านก็ทำ KM อย่างที่ต้องการแล้ว วันนี้เราจะมาดูกันว่า KM ที่เราอยากทำนั้น เราจะทำอย่างไร จากที่ สคส ท่านเสนอ (อีกแล้ว..อิอิ)

ตามแนวคิดของท่านอาจารย์ ดร. ประพนธ์ ผาสุกยืด แห่งสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้ เพื่อสังคม (สคส.) ที่ได้นำเสนอ TUNA Model หรือ KM Model “ปลาทู” ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนคือ ส่วนที่หนึ่ง Knowledge Vision (KV) มีส่วนหัว ส่วนตา มองว่ากำลังจะไปทางไหน ต้องตอบได้ว่า “ทำ KM ไปเพื่ออะไร” ความสนใจร่วมหรือปัญหาร่วมของชุมชนในองค์กร ส่วนที่สอง Knowledge Sharing (KS) ส่วนกลางลำตัว ส่วนที่เป็น “หัวใจ” ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยเหลือ เกื้อกูลซึ่งกันและกัน (Share & Learn) ถ้าไม่สามารถทำให้รู้สึกรักและปรารถนาดีต่อกันด้วยความจริงใจได้ ใจใครก็บังคับใครไม่ได้ และส่วนที่สามKnowledge Assets (KA) เป็นส่วนขุมความรู้ที่ทำให้มีการนำความรู้ไปใช้งานและมีการต่อยอดยกระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ช่วยให้การแพร่กระจายความรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ...

สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัย..
- เปิดตา มองผู้เล่าเรื่องด้วยแววตาแสดงความสนใจ แววตาชื่นชม สายตาผู้ฟังสามารถสร้างบรรยากาศที่ดีได้
- เปิดหู ตั้งใจรับฟัง ฟังด้วยความชื่นชมยินดีเมื่อคนฟัง ฟังจากใจ คนพูดจะถูกกระตุ้นทำให้พูดได้ลึกขึ้น ปล่อยความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge) ออกมาได้มากขึ้น
- เปิดใจ ให้อยากแลกเปลี่ยน อยากรับฟังคนอื่น เปิดใจกว้างฟังคนที่คิดต่าง โดยไม่ยึดติดอยู่ในกรอบ เปิดใจรับฟังแบบไม่นึกค้านอยู่ในใจ แม้ไม่ตรงกับใจที่คิด อย่าเพิ่งค้าน เปิดใจฟังเรื่องเล่าให้จบก่อน

ไม่มีความคิดเห็น: